ปัญเรื่องพุงป่องกับไขมันในช่องท้อง (Visceral Fat)

ปัญหาเรื่องไขมันในช่องท้อง ทำให้พุงหลายๆคนป่องโดยไม่รู้ตัว ซึ่งวิธีการลดไขมันในช่องท้องก็อาจยากลำบากนิดหน่อย พุงป่อง และไขมันในช่องท้อง (Visceral Fat) นั้นก็เป็นปัญหาสุขภาพที่เกิดจากการสะสมไขมันในพื้นที่ในช่องท้องรอบเอว ซึ่งไขมันในช่องท้องมีความแตกต่างจากไขมันใต้ผิวหนังที่เราสามารถมองเห็นได้ภายนอก แต่เนื่องจากไขมันในช่องท้องอยู่รอบอวัยวะภายในช่องท้อง เช่น ตับ ไต และลำไส้ ไม่สามารถมองเห็นได้ แต่มีผลกระทบต่อการทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกาย อีกด้วย

รู้จักกับไขมันช่องท้อง (Visceral Fat)

ไขมันช่องท้อง (Visceral Fat) เป็นไขมันที่สะสมอยู่ในช่องท้องรอบอวัยวะภายใน และอยู่ลึกเข้าไปในร่างกาย ไม่สามารถรู้สึก หรือมองเห็นมันได้ เช่น ตับ ลำไส้ กระเพาะ ยิ่งมีไขมันในช่องท้องเพิ่มมากขึ้นก็เสี่ยงต่อการเป็นเบาหวาน และโรคหัวใจ จริงๆแล้วบางคนอาจมีหน้าท้องที่ค่อนข้างแบน แต่ก็ยังมีไขมันในช่องท้องอยู่ บางครั้งเรียกว่า TOFI (thin outside fat insid)

ไขมันในช่องท้อง และไขมันใต้ผิวหนังแตกต่างกันอย่างไร?

ไขมันใต้ผิวหนัง คือไขมันที่สะสมอยู่ใต้ผิวหนัง ซึ่งคุณสามารถบีบไขมันใต้ผิวหนังด้วยนิ้วได้ แต่ไขมันในอวัยวะภาย หรือไขมันในช่องท้องจะมีความแตกต่างกัน ไขมันในช่องท้องอยู่ด้านหลังกล้ามเนื้อหน้าท้อง และไม่สามารถมองเห็นได้ จะล้อมรอบกระเพาะอาหาร ตับ ลำไส้ และอวัยวะอื่นๆ ไขมันในช่องท้อง และไขมันใต้ผิวหนัง เป็นไขมันสองประเภท

ไขมันในช่องท้องเกิดจากอะไร?

ปัจจัยทางพันธุกรรม และสิ่งแวดล้อมเป็นตัวกำหนดปริมาณไขมันในอวัยวะภายในที่สะสม พันธุศาสตร์เป็นตัวกำหนดรูปร่าง และวิธีที่ร่างกายกักเก็บไขมันในอวัยวะภายใน

แต่ปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม เช่น การรับประทานอาหาร การออกกำลังกายก็มีบทบาทสำคัญเช่นกัน การรับประทานอาหารที่ไม่ดีโดยรับประทานอาหารที่มีไขมัน และคาร์โบไฮเดรต (น้ำตาล) ในปริมาณมาก การใช้ชีวิตแบบเกียจคร้านจะเป็นปัจจัยสำคัญในการเพิ่มไขมันในอวัยวะภายใน

อย่างไรก็ตาม ความเครียดก็เป็นปัจจัยหนึ่งเช่นกัน ความเครียดไปกระตุ้นฮอร์โมนในร่างกายที่เรียกว่าคอร์ติซอล คอร์ติซอลที่มากขึ้นจะกระตุ้นการตอบสนองของร่างกาย ซึ่งกระตุ้นให้เกิดการสะสมของไขมันในอวัยวะภายในมากขึ้น

ปัจจัยที่ทำให้เกิดพุงป่อง และสะสมไขมันในช่องท้อง

  1. พฤติกรรมการรับประทานอาหาร: การบริโภคอาหารที่มีปริมาณไขมันสูง คาร์โบไฮเดรตสูง และน้ำตาลสูงอาจทำให้เกิดการสะสมไขมันในช่องท้องได้
  2. ขาดการออกกำลังกาย: พฤติกรรมการออกกำลังกายอย่างไม่เพียงพอสามารถทำให้เกิดการสะสมไขมันในช่องท้องได้
  3. สภาพแวดล้อมและวิถีชีวิต: การได้รับสารพิษจากสิ่งแวดล้อม เช่น การสูบบุหรี่ การบริโภคแอลกอฮอล์ และการเคลื่อนไหวน้อยหรือนั่งทำงานเป็นเวลานานส่งผลให้เกิดการสะสมไขมันในช่องท้อง
  4. พันธุกรรม: มีการพบว่าความเสี่ยงในการพัฒนาพุงป่องและไขมันในช่องท้องมีความเกี่ยวข้องกับพันธุกรรม

วิธีการวัดขนาดเอวเบื้องต้น

ไม่มีทางรู้ได้เลยว่าไขมันในอวัยวะภายในซ่อนอยู่ในร่างกายของคุณขนาดไหน และจำนวนเท่าใด หากไม่มีการตรวจสุขภาพ แต่ก็มีการวัดขนาดเอวได้ง่ายๆที่เราสามารถรู้ปริมาณคร่าวๆได้

การวัดขนาดเอวเป็นวิธีง่ายๆ ในการประมาณค่าคร่าวๆ เพียงพันสายวัดรอบเอวเหนือสะดือ ในผู้หญิง ถ้ามีขนาด 35 นิ้วขึ้นไป เป็นสัญญาณของไขมันในช่องท้อง ในผู้ชายคือ 40 นิ้ว

แล้วจะลดไขมันช่องท้องได้อย่างไร

1.การทำ IF เพราะร่างกายสามารถดึงไขมันจาดช่องท้องมาใช้

2.การทานแป้ง หรือน้ำตาลต่ำ เพื่อลดการสะสมของไขมันในตับโดยเฉพาะอย่างยิ่งน้ำตาลฟรุกโตส

3.ออกกำลังกาย

4.การนอนหลับให้เพียงพอ

5.หลีกเลี่ยงบุหรี่ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *