หากท่านหรือคนใกล้ตัวของท่านมีปัญหาเหล่านี้ เช่น
- รู้สึกอ่อนเพลียในวันรุ่งขึ้นเป็นประจำ ทั้งๆที่คิดว่านอนเพียงพอแล้ว
- มีอาการง่วงนอนตอนบ่ายเป็นประจำ
- มีปัญหาเรื่องความดันโลหิตสูงที่ยังหาสาเหตุไม่ได้
- ท่านที่ไม่ได้มีอาการใดๆ แต่มีภาวะน้ำหนักเกิน และมองไม่เห็นคอของตนเอง
- สำหรับคู่นอนสังเกตเห็นว่านอนกรนหนักมาก พร้อมกับมีภาวะหยุดหายใจระหว่างกลางดึก
ถ้าหากมี “อาการเหล่านี้ ข้อใดข้อหนึ่ง ถ้าถือว่ามีความเสี่ยงที่จะมีภาวะหยุดหายใจระหว่างนอนหลับ”
มาถึงตอนนี้หลายท่านอาจจะยังไม่แน่ใจว่า “ภาวะหยุดหายใจระหว่างนอนหลับ” คืออะไร ผมจะมาท่านไปความรู้จักกันครับ ตามผมมาเลย
ภาวะหยุดหายใจระหว่างนอนหลับ
ทุกๆครั้งที่เรานอนหลับไปแล้ว (หลับสนิท) กล้ามเนื้อทั่วทั้งร่างกายเราจะอ่อนตัวลง ถามว่ารู้ได้อย่างไร เราก็ลองยกแขน ยกขาเพื่อนร่วมเตียงท่านดู ก็จะพบว่าเขาแทบไม่มีปฎิกิริยาตอบสนองใดๆ และถ้าเรามาวัดความดันโลหิตก็จะพบว่าความดันจะลดลงกว่าช่วงกลางวัน (หัวใจบีบเบาลง) และ การหายใจก็จะเบาลง
ทั้งหมดเป็นระบบของร่างกายที่ทำให้ร่างกายได้พักผ่อนนั่นเอง แต่สำหรับบางคนอาจจะเป็นข้อเสียอย่างมากเพราะว่า
- กล้ามเนื้อที่อ่อนตัวลงทั้งร่างกาย มันไม่ได้เจาะจงแค่กล้ามเนื้อมัดใดมัดหนึ่งครับ แต่มันอ่อนลงทั้งร่างกาย และกล้ามเนื้อตรงบริเวณคอของเรา รวมถึงลิ้นของเราเองก็จะอ่อนตัวลงด้วย
- ซึ่งการที่กล้ามเนื้อที่อ่อนลงนี่เองที่ทำให้ มันมีโอกาสสูงมากที่จะไปอุดทางเดินหายใจของเราในระหว่างนอนหลับนั่นเอง และในคนที่มีทางเดินหายใจที่คับแคบอยู่แล้ว นั่นก็คือทางเดินหายใจของท่านจะถูกบดบัง หรือถูกปิดสนิทในเวลากลางคืนนั่นเอง และนั่นคือที่มาของเสียงกรนก่อนที่จะเงียบไป เสียงกรนคือเสียงที่ลมวิ่งผ่านพื้นที่รูที่แคบลง และเสียงที่หายไปคือการหยุดหายใจนั่นเอง
ก่อนจะไปต่อ เราต้องมาทำความเข้าใจของ ทางเดินหายใจของเราในช่วงกลางคืนก่อนระหว่าง คนปกติ กับ คนที่มีแนวโน้มจะทางเดินหายใจตีบกัน
ภาพที่ 1 แสดงท่อหายใจของคนปกติ (ภาพบน) ลมจะยังสามารถผ่านเข้าไปยังท่อหายใจและไปยังปอดได้ แม้จะอยู่ในท่านอน แต่ท่อทางเดินหายใจจะตีบในคนที่ลิ้นลงไปกดทับปิดท่อทางเดินหายใจไว้ (ภาพล่าง)
ภาพที่ 2 แสดงความรุนแรงของโอกาสการตีบของทางเดินหายใจ จากคนปกติ Class 1 ไปจนถึง Class 4 (Mallampati Score)
และสิ่งที่ Sleep test จะทำก็คือ เราจะค้นหาว่าการนอนหลับของเรานั้นมีภาวะทางเดินหายใจตีบแคบจนทำให้เรามีภาวะหยุดหายใจหรือไม่นั่นเอง
โรคหยุดหายใจขณะหลับที่มาร่วมกับอาการนอนกรนเป็นโรคที่อันตราย และควรได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน ทั้งนี้อาจให้คนใกล้ชิดที่นอนด้วยช่วยกันสังเกตความผิดปกติที่เกิดขึ้น หรือทำ Home Sleep Test เพื่อจะได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที
อันตรายของภาวะหยุดหายใจระหว่างนอนหลับ
ถ้าเราปล่อยให้ภาวะหยุดหายใจระหว่างนอนหลับเกิดอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน จะเกิดผลเสียกับร่างกายอย่างมาก
- เส้นเลือดปอดจะทำงานหนัก และสุดท้ายความดันในช่องปอดจะสูง (Pulmonary Hypertension) ซึ่งนำไปสู่โรคทางหลอดเลือดทั่วร่างกายที่หัวใจและสมองในลำดับถัดมา
- ระบบการเผาผลาญพัง น้ำหนักขึ้น ไขมันในโลหิตสูง และภาวะดื้อต่ออินซูลินจะตามมา
- ยังมีอีกมากมายแต่ขอกล่าวเพียงเท่านี้
การตรวจการนอนหลับ (Sleep Test) คืออะไร?
Sleep Test หรือที่เรียกว่าการตรวจการนอนหลับ เป็นกระบวนการที่ใช้เพื่อวัดและประเมินคุณภาพการนอนหลับของบุคคล ซึ่งมักจะใช้ในการวินิจฉัยปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการนอนหลับ เช่น ภาวะนอนกรน (Insomnia) หรือ ภาวะตื่นตอนกลางคืน (Sleep Apnea) ซึ่งเป็นภาวะที่รุนแรงอาจมีผลกระทบต่อสุขภาพทั่วไปและคุณภาพชีวิตของบุคคล
การตรวจการนอนหลับทั่วไปใช้เครื่องมือที่อยู่ในรูปแบบของอุปกรณ์ที่สวมใส่ในระหว่างการนอน เช่น อุปกรณ์ตรวจการหายใจในระหว่างการนอน (Polysomnography) ซึ่งประกอบด้วยเซ็นเซอร์ต่างๆ เพื่อวัดการหายใจ การหมุนตัว ระดับความออกซิเจนในเลือด รวมถึงกิจกรรมสมองและการเคลื่อนไหวของตาในระหว่างการนอน นอกจากนี้ยังมีการใช้อุปกรณ์ที่ไม่ต้องสวมใส่เพื่อวัดระดับความหลับและการตื่นของผู้รับการทดสอบ
โดยการตรวจการนอนหลับในอดีตจะทำกันในโรงพยาบาลเป็นหลัก ซึ่งสร้างไม่สะดวกสบายให้กับคนไข้ (หรือคนปกติ) เพราะเราจะต้องไปนอนที่โรงพยาบาลทั้งๆที่อาจจะไม่ได้ป่วย และเครื่องไม้เครื่องมือที่จะมาติดตัวเราจนเราอาจจะรำคาญมันมากๆ ปัจจุบันเราจึงมีการตรวจการนอนทางเลือกใหม่ที่
การตรวจสะดวกสบาย สามารถทำที่บ้านได้ แปลผลการตรวจเบื้องต้นได้เลย คัดกรองได้ทันทีว่ามีภาวะหยุดหายใจหรือไม่ และที่สำคัญราคาไม่แพง
การตรวจการนอนแบบนี้เรียกว่า การตรวจการนอนที่บ้าน (Home Sleep Test) นั่นเองครับ ซึ่งจะช่วยให้แพทย์สามารถประเมินและวินิจฉัยปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการนอนหลับได้ ซึ่งจะช่วยในการกำหนดการรักษาที่เหมาะสมเพื่อเพิ่มคุณภาพการนอนหลับและสุขภาพทั่วไป
การตรวจการนอนหลับที่บ้าน (Home Sleep Test)
- สถานที่ จะทำในสภาพแวดล้อมที่คุณรู้จักและสบายกว่า คุณจะตรวจการนอนหลับได้ในบ้านของคุณเอง ไม่ต้องเข้าพักในโรงพยาบาล ซึ่งอาจช่วยลดความเครียดและความไม่สะดวกสบายที่เกิดขึ้นจากสภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคยในโรงพยาบาล
- การตรวจวัด ใช้อุปกรณ์ตรวจวัดที่คล้ายกับหน้ากากหรืออุปกรณ์เครื่องประเมินการหลับในชั่วโมงปกติ ซึ่งใช้เซ็นเซอร์และเทคโนโลยีต่างๆ เพื่อวัดและบันทึกข้อมูลต่างๆ เช่น ระดับออกซิเจนในเลือด การหายใจ การหลับดึก และการเคลื่อนไหวของร่างกายระหว่างการนอนหลับ โดยอุปกรณ์เหล่านี้มีขนาดเล็กและสามารถพกพาได้ง่าย
- ความสะดวกสบาย ให้คุณสามารถนอนในสภาพแวดล้อมที่คุ้นเคยและสบายๆ ได้ ไม่ต้องมีผู้ปฏิบัติงานดูแลตลอดเวลาเหมือนในโรงพยาบาล นอกจากนี้คุณยังสามารถทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ โดยไม่ต้องพักในโรงพยาบาล
มาดูหน้าตาของอุปกรณ์ตรวจการนอนกัน
หน้าตาของชุดอุปกรณ์จะเป็นแบบนี้เลย ทุกอย่างจะแพคใส่กระเป๋าขนาดเล็กมา จนเราอาจจะแทบไม่เชื่อเลยว่า อุปกรณ์เพียงแค่จะสามารถชี้ชะตาคุณภาพการนอนของเราได้ขนาดนี้ โดยอุปกรณ์นี้จะมีชื่อว่า ResMed ApneaLink Air ครับ ถ้ามองจากภาพ
- ตัวเครื่องวัดสีดำอันนี้ อันนี้ถือเป็นหัวใจของการตรวจเลยครับ เราจะเห็นปลายสายด้านซ้าย อันนี้เรียกว่า Canula หรือออกซิเจนนั่นเอง เราจะเอาปลายสายนี้ติดไว้ที่จมูกของเราตอนนอนนั่นเองครับ
- ตัวเครื่องสีดำจะมาพร้อมกับสายรัดให้อุปกรณ์อยู่ตรงกลางระหว่างราวนมทั้งสองข้าง เพื่อตรวจจับการเคลื่อนของเราในตอนกลางคืน เช่น เราพลิกตัวกี่ครั้ง เราอยู่ในท่านอนตะแคงซ้ายขวา กี่นาทีต่อคืนเป็นต้น
- และตัวสายสีฟ้าที่ต่อออกมาจากตัวเครื่องสีดำ ตัวนี้จะเป็นที่วัดออกซิเจนที่เราจะเอามาติดตรงปลายนิ้วมือเรา (เล็บ) ตลอดทั้งคืน เพื่อดูว่ามีภาวะออกซิเจนพร่องในระหว่างกลางดึกหรือไม่
ทุกอย่างสามารถทำได้ด้วยตนเองครับ โดยจะมีเจ้าหน้าที่โทรให้คำแนะนำอีกครั้งเมื่อได้รับเครื่อง
ตรวจการนอนแล้ว จะบอกอะไรกับเราบ้าง
มีค่าผลการตรวจมากมายที่เราจะทราบ แต่ผมจะเล่าเฉพาะส่วนทุกคนต้องรู้กันครับ ค่าผลตรวจที่ผมอยากทราบจะมีไม่กี่อย่างดังนี้คือ
- ลมหายใจที่ผ่านเข้าออก (Air Flow) โดยตรวจวัดร่วมกับการเคลื่อนไหวของทรวงอก ตัวนี้จะเป็นตัวบอกเพื่อตรวจหาภาวะหยุดหายใจขณะหลับ
- เปอร์เซ็นต์ความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือด (SpO2) เพื่อดูว่าขณะนอนหลับ สมองและหัวใจมีการขาดออกซิเจนหรือไม่ มากน้อยเพียงใด
- ท่าทางการนอน เพื่อดูว่าในแต่ละท่านอน เช่น นอนหงาย ตะแคงซ้าย ขวา มีการกรนหรือหยุดหายใจมากน้อยเพียงใด ท่านอนนี้สำคัญมากเพราะบางคนจะมีอาการเมื่อตะแคง บางคนมีอาการแม้กระทั่งท่านอนตะแคง
- ค่าจำนวนครั้งในการกรนในตลอดทั้งคืน
- ค่า AHI หรือดัชนีการหยุดหายใจ รวมกับการหายใจแผ่ว(AI+HI) หน่วยเป็น ครั้งต่อชั่วโมง
ค่า AHI ค่าที่คุณต้องรู้จัก
ปลายทางของการตรวจ เราจะทำเพื่อดู ค่าที่เรียกว่า AHI (Apnea-Hypopnea Index) ซึ่งจะเป็นส่วนในการวินิจฉัย ภาวะหยุดหายใจระหว่างนอนหลับ (Obstructive Sleep Apnea) มีการกำหนดค่าเกณฑ์ที่ใช้ในการจำแนกความรุนแรงของอาการดังนี้
AHI (Apnea-Hypopnea Index) แปลเป็นไทยได้แบบเข้าใจง่ายๆคือ ในทุกๆ 1 ชั่วโมงของการนอนหลับสนิทของเรา เรามีภาวะหยุดหายใจ (apnea) หรือ หายใจแผ่ว (hypopnea) กี่ครั้งในชั่วโมงนั้นๆ
- AHI น้อยกว่า 5: ถือว่า ปกติ แปลว่าคนปกติก็หยุดหายใจได้แต่ห้ามเกิน 5 ครั้งต่อชั่วโมง
- AHI ระหว่าง 5-15: ถือว่ามีอาการในระดับเล็กน้อย (mild sleep apnea)
- AHI ระหว่าง 15-30: ถือว่ามีอาการระดับปานกลาง (moderate sleep apnea)
- AHI มากกว่า 30: ถือว่ามีอาการระดับรุนแรง (severe sleep apnea)
ค่าเกณฑ์นี้อาจมีการปรับเปลี่ยนได้ตามคำแนะนำและมาตรฐานที่ใช้ในแต่ละสถาบันการแพทย์ ดังนั้น ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญทางด้านนอนไม่หลับเพื่อข้อมูลที่ถูกต้องและคำแนะนำที่เหมาะสมสำหรับบุคคลแต่ละราย
ตัวอย่างจากคนไข้จริง
ผมได้เห็นเคสคนไข้จำนวนมากที่ผลการตรวจสอดคล้องกับอาการเท่าเขาเป็น โดยในเคสนี้มีน้ำหนักเกินเกณฑ์ค่อนข้างมาก BMI 35 และเป็นคนที่แทบไม่เห็นคอเลย อีกทั้งมีประวัติง่วงนอนกลางวันเป็นประจำ จึงได้ทำการตรวจการนอนที่บ้านและได้ผลด้านล่างดังนี้
ผมขอแปลผลการนอนง่ายๆแบบนี้ เพื่อให้คนที่สนใจดูเป็นรายละเอียดว่าเราทำอะไรกัน
- ค่า AHI อยู่ที่ 60.4 ซึ่งถือว่าสูงมาก ถ้าจะแปลให้เป็นความหมายแบบเข้าใจง่ายๆก็คือ ในทุกๆ 1 ชั่วโมงของการนอนหลับ เขาจะมีภาวะหยุดหายใจถึง 60.4 ครั้งต่อชั่วโมง
- ด้วยความรุนแรงของตัวโรค รวมถึงจากการสังเกตของเพื่อนร่วมเตียงที่แจ้งว่าผู้ป่วยมีภาวะกรนหนักมาก รวมถึงอาการง่วงตอนกลางวันเป็นประจำ จึงแทบจะบอกได้เลยว่าเขามีภาวะหยุดหายใจระหว่างนอนหลับ
การรักษาภาวะหยุดหายใจระหว่างนอนหลับ
การรักษาทำได้ง่าย และไม่จำเป็นต้องทานยาใดๆ โดยจะต้องทำ 2 อย่างควบคู่กันเสมอคือ
- ระยะสั้น – ระยะกลาง การใช้เครื่อง CPAP เพื่อช่วยถ่างขยายช่องทางเดินหายใจระหว่างนอนหลับ ซึ่งเราจะสัมผัสได้ถึงความแตกต่างของคุณภาพการนอนได้ตั้งแต่คืนแรกหลังใช้
- ระยะกลาง – ระยะยาว เช่น ถ้าหากท่านมีปัญหาเรื่องน้ำหนักตัวเกิน การลดน้ำหนักให้กลับสู่เกณฑ์มาตรฐานเป็นสิ่งจำเป็น
การเตรียมตัวก่อนตรวจการนอนหลับที่บ้าน (Home Sleep Test)
- อาบน้ำสระผมให้สะอาดก่อนมาเข้ารับการตรวจ และไม่ใช้น้ำมันสเปรย์ใส่ผม
- งดการหลับในเวลากลางวัน ถ้าไม่ใช่สิ่งที่เคยทำประจำ
- ก่อนการตรวจ 5 ชั่วโมง ผู้ป่วยควรดื่มน้ำให้น้อยลง และรับประทานอาหารเย็นให้เรียบร้อยก่อนมาตรวจ
- งดดื่มแอลกอฮอล์ก่อนเข้ารับการตรวจ 24 ชั่วโมง
- งดดื่มชา กาแฟ น้ำอัดลม และเครื่องดื่มกระตุ้นประสาทก่อนเข้ารับการตรวจอย่างน้อย 12 ชั่วโมง
- ถ้ามียาที่ต้องทานเป็นประจำควรปรึกษาแพทย์ก่อนว่าจำเป็นต้องงดหรือไม่
- ผู้ชายควรโกนหนวดให้เรียบร้อยก่อนมาตรวจ ผู้หญิงควรงดแต่งหน้าและทาเล็บ
การตรวจการนอนหลับที่บ้านนับเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มีอาการนอนกรน และสงสัยว่าจะมีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ เพราะมีข้อดีต่างๆ มากมาย เช่น ราคาประหยัด ไม่ต้องรอคิวนาน นอนหลับได้สนิทมากกว่าเพราะได้นอนในสถานที่ที่คุ้นเคย ทำให้ผลการตรวจใกล้เคียงกับความเป็นจริงมากกว่า
แต่อย่างไรก็ดี การตรวจแต่ละวิธีก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป ดังนั้นก่อนตัดสินใจท่านควรไปปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการนอนหลับก่อน เพื่อให้แพทย์ประเมินและเป็นผู้พิจารณาว่าท่านควรจะรับการตรวจแบบไหนต่อไป
สนใจการตรวจการนอนที่บ้าน
ท่านสามารถติดต่อได้ที่ช่องทางติดต่อด้านล่างนี้