โปรแกรมควบคุมน้ำหนัก โดยมีแพทย์และพยาบาลเฉพาะทาง ดูแลและติดตามผลการรักษาอย่างละเอียด ใกล้ชิด ให้คำแนะนำทั้งการปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหาร การออกกำลังกายอย่างถูกวิธี รวมถึงออกแบบวิธีการลดน้ำหนักเฉพาะบุคคล พร้อมปากกาลดน้ำหนัก ที่จะช่วยให้การลดน้ำหนักง่ายขึ้น

โปรแกรมควบคุมน้ำหนัก จะช่วยเสริมสร้างความมั่นใจ ให้รูปร่างสมดุลอย่างสุขภาพดีแบบยั่งยืน ออกแบบโปรแกรมการรักษาและให้คำปรึกษาโดยแพทย์เฉพาะทาง ที่จะช่วยแนะนำวิธีการควบคุมน้ำหนักในรูปแบบเฉพาะบุคคลอย่างถูกวิธี ปรับวิธีการรักษาให้ตรงจุดแบบตัวต่อตัว
เหมาะกับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก แต่ยังไม่สำเร็จ เพราะการควบคุมน้ำหนักจะได้ผลดีและต่อเนื่อง จำเป็นต้องทราบถึงปัญหาของน้ำหนัก ว่าเกิดจากสาเหตุใด บางรายอาจมีบางอย่างผิดปกติ เช่น ระบบเผาผลาญผิดปกติ ร่างกายไม่เผาผลาญอาหารที่รับประทาน และอีกหลายปัจจัยที่แต่ละคนมีแตกต่างกัน

– ติดตามประเมินผลการรักษาแบบส่วนตัวที่คลินิก
– ติดตามประเมินผลการรักษาแบบส่วนตัว ด้วยวิธี VDO Call ประหยัดเวลาและไม่ต้องเดินทางมาคลินิก

หลายคนน่าจะเคยมีความสงสัยนี้อยู่บ่อย ๆ ว่าเพื่อนที่กินทุกอย่างเหมือนกันกับเรา ทำไมไม่อ้วนสักที มีแต่เราที่อ้วนอยู่คนเดียว นั่นก็เพราะว่า DNA หรือรหัสพันธุกรรมที่ติดตัวเรามาตั้งแต่เกิด ที่ทำให้แต่ละคนมี “ความอ่อนไหว” ต่อน้ำหนักตัว และอาหารไม่เหมือนกัน เรียกว่าเป็นอัตลักษณ์ (Identity) เฉพาะเราคนเดียว DNA ของคุณอาจกำหนดมาให้คุณเผาผลาญโปรตีนได้มากกว่าไขมัน แม้คุณจะกินไขมันในปริมาณเท่า ๆ กับเพื่อน จึงเป็นเหตุผลว่าทำไม การลดน้ำหนักของเขาถึงใช้กับเราไม่ได้ และทำไมเขาถึงกินไขมันได้มากกว่าใคร โดยที่น้ำหนักแทบขยับเลย

– โทรนัดหมายคิวปรึกษาแพทย์ล่วงหน้า
– เตรียมเวลาในการพูดคุยปรึกษากันครั้งแรก ใช้เวลาโดยประมาณ 30-60 นาที
– รวบรวมเรื่องเล่าและปัญหาตามลำดับเหตุการณ์ให้แพทย์ฟังอย่างละเอียด
– หากมี ผลการตรวจสุขภาพครั้งล่าสุดให้นำมาด้วย
– หากมี ยา/วิตามิน/สมุนไพร ที่ทานเป็นประจำ ควรนำมาด้วย หรือ จดบันทึก/ถ่ายรูปฉลาก มาแทนได้
– กรุณางดเครื่องดื่มและอาหารก่อนเข้ารับบริการ 8-12 ชั่วโมง (ในกรณีที่มีการตรวจเลือด)

เทคนิคการลดน้ำหนักของแต่ละคนก็แตกต่างกัน บางคนพอน้ำหนักเพิ่มขึ้นเราชอบใช้วิธี อดอาหาร (Calorie Deficit) ซึ่งก็อาจจะได้ผลในช่วงแรก โดยเฉพาะกับคนที่กินเยอะ (Overeat) และมีการใช้พลังงานน้อย (Sedentary lifestyle) หรือการควบคุมอาหาร แต่ไม่มีการใช้พลังงานในร่างกายเพิ่ม ก็อาจส่งผลให้น้ำหนักไม่ลด หรือลดได้เพียงช่วงสั้นๆ ก็กลับมาเพิ่มขึ้นอีก แต่ในหลายกรณี ปริมาณอาจไม่ได้สำคัญเท่ากับคุณภาพของอาหารที่ร่างกายได้รับเข้าไป การขาดสารอาหาร ทั้งๆที่ได้แคลอรีเพียงพอ (Malnutrition in Obesity) ที่พบมากขึ้นในยุคสมัยนี้ การแก้ปัญหาด้วยวิธีอดอาหารอาจยิ่งทำให้ร่างกายแย่ลง น้ำหนักก็เลยยิ่งไม่ลงสักที

โดยทั่วไปแล้วยาลดน้ำหนักมีไว้ใช้ สำหรับคนที่เป็น “โรคอ้วน” ต้องได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ก่อน จึงจะสามารถใช้ยาลดน้ำหนักได้ เพราะอาจผลข้างเคียงตามลักษณะอาการดังนี้

– นอนไม่หลับ กระสับกระส่าย ปวดศีรษะ หัวใจเต้นเร็ว
– อาจเกิดโรคกระเพาะ และเกิดอาการท้องเดิน เนื่องจากร่างกายสูญเสียสมดุลของน้ำ และเกลือแร่
– เกิดการกดการหายใจ และความดันโลหิตสูง
– อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย ใจสั่นหรือหัวใจเต้นผิดจังหวะ
– อาจหมดสติหรือชัก และอาจมีอันตรายถึงแก่ชีวิตได้

วิธีการลดน้ำหนักจริง ๆ ก็มีอยู่หลายทางเลือก แต่บางคนก็ชอบทางลัด เพราะคิดว่าไม่ต้องทำอะไรมาก แค่กินยาก็ผอมแล้ว แต่ความจริงแล้วการกินยาลดน้ำหนักแบบผิด ๆ ทำให้ร่างกายได้รับอันตรายอาจถึงขั้นเสียชีวิตเลยก็ได้