คลื่นสมอง (Brain wave) หรือที่เรียกว่าเป็นจังหวะจากการสื่อสารของเซลล์ประสาทที่เรียกว่าการสั่นของระบบประสาทหรือคลื่นสมอง รูปแบบเหล่านี้เกิดจากการยิงแบบสุ่มในลักษณะซิงโครไนซ์ได้ โดยทั่วไปแล้วคลื่นสมองจะวัดโดยใช้ Electroencephalography (EEG) โดยปกติแล้ว สมองของจะเป็นศูนย์กลางของกิจกรรมทางไฟฟ้า นั้นเป็นเพราะว่าเซลล์ในสมอง หรือที่เรียกว่าเซลล์ประสาทนั้นใช้ไฟฟ้าในการสื่อสารระหว่างกัน
บริเวณต่างๆ ของสมองไม่ได้ปล่อยความถี่คลื่นสมองแบบเดียว และพร้อมกัน โดยสัญญาณของ EEG ระหว่างอิเล็กโทรดที่อยู่บนหนังศีรษะประกอบด้วยคลื่นหลายคลื่นที่มีลักษณะแตกต่างกันออกไป รูปแบบคลื่นสมองแต่ละคนนั้นจะไม่เหมือนใคร คลื่นสมองพื้นฐานมีทั้งหมด 5 ประเภทด้วยกัน ซึ่งมีตั้งแต่ช้ามากไปจนถึงเร็วมาก และจะแบ่งออกเป็นประเภทต่างๆ ได้ดังนี้
ประเภทของคลื่นสมอง
1. Delta Waves (0.5-4 Hz)
มีความถี่ต่ำ และมีแอมพลิจูดค่อนข้างสูง และมักเกี่ยวข้องกับการผ่อนคลาย พักผ่อน และการนอนหลับลึก
2.Alpha Waves (8-13 Hz)
เมื่อมีการตื่นขึ้นในตอนเช้า หรือในขณะรู้สึกเงียบสงบ และครุ่นคิด นั่นคือช่วงที่คลื่นสมองอัลฟ่ามีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้น การผลิตคลื่นอัลฟ่าในสมองจะผลิตได้เมื่อหยุดโฟกัสหรือเพ่งความสนใจไปที่งาน เพียงแค่พยายามทำความผ่อนคลายเท่านั้น ตัวอย่างการผ่อนคลาย เช่น เมื่อหลับตา และผ่อนคลาย รวมถึงในระหว่างการทำสมาธิ คลื่นอัลฟ่ามีแอมพลิจูดที่เร็วกว่า และต่ำกว่าคลื่นทีต้า และเดลต้า
3.Theta Waves (4-8 Hz)
มีสัมพันธ์กับอาการง่วงซึม การฝันกลางวัน และการนอนหลับระยะแรกๆ โดยทั่วไปคลื่นทีต้าจะมีแอมพลิจูดช้ากว่า และสูงกว่าคลื่นอัลฟ่า และเบตา
4.Beta Waves (13-30 Hz)
มักพบในสมองในสถานการณ์ที่คนตื่น และทำงานอยู่ มักมีความถี่สูงและเป็นสัญญาณของสมองที่มีความตื่นตัว
5.Gamma Waves (30-100 Hz)
เป็นคลื่นสมองที่เร็วที่สุด จะเกิดตอนสมองตื่นตัว ที่เกี่ยวกับการทำงาน จดจ่อ การรับรู้ และการแก้ปัญหา
ตัวอย่างคลื่นสมองสําหรับรูปคลื่นที่แตกต่างกัน
Ref: Sciencedirect
เทคนิค วิธีปรับคลื่นสมองให้เข้าสู่สภาวะผ่อนคลาย
1.การฝึกหายใจ: การหายใจอย่างลึกๆ และช้าๆ สามารถช่วยให้ร่างกายผ่อนคลายลง เช่น การทำโยคะ หรือการฝึกหายใจที่ช่วยในการสร้างสภาพอารมณ์ที่ผ่อนคลายขึ้น
2.การทำการสมาธิ: การฝึกสมาธิช่วยให้มีสมาธิเพิ่มมากขึ้น
3.การฟังเพลงผ่อนคลาย: เลือกเพลงที่มีจังหวะที่ช่วยสร้างอารมณ์ที่ผ่อนคลาย ซึ่งสามารถค้นหาเพลงที่ออกแบบมาเพื่อช่วยในการผ่อนคลาย และลดความเครียดได้อีกด้วย
4.การนวด: การนวดเบาๆ บริเวณที่ตึง หรือเครียดสามารถช่วยให้กล้ามเนื้อผ่อนคลายและเพิ่มความผ่อนคลายได้
5.การออกกำลังกายเบาๆ: เช่น การเดินหรือโยคะเพื่อส่งเสริมการไหลเวียนของพลังชีวิต และช่วยให้ร่างกาย และจิตใจผ่อนคลาย
ตัวอย่างเสียงตามความถี่คลื่นสมอง
นอกจากนี้ยังมีเสียงดนตรี เสียงเพลง ตามคลื่นเสียงต่างๆ ที่ช่วยให้เราผ่อนคลาย และหลับอีกด้วยนะครับ สามารถชมด้านล่างได้เลยครับ
ประโยชน์ของการเหนี่ยวนำคลื่นสมอง
คลื่นเหล่านี้มีบทบาทในกระบวนการรับรู้ และอารมณ์ต่างๆ ตัวอย่างเช่น คลื่นเดลต้า และทีต้าสัมพันธ์กับการผ่อนคลาย และการนอนหลับ นอกจากนี้ยังรวมถึงการโฟกัส และสมาธิที่ช่วยให้มีประสิทธิภาพการรับรู้ดีขึ้น
ขอบคุณข้อมูลจาก : Healthline, Sciencedirect