รู้จักกับ “ไขมันทรานส์ (𝐓𝐫𝐚𝐧𝐬 𝐅𝐚𝐭)” ไขมันตัวร้าย ที่มาพร้อมกับความอร่อย

ไขมันทรานส์คืออะไร?

ไขมันทรานส์(Trans-fatty acid) เป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัว (Unsaturated Fatty Acid) ซึ่งเป็นประเภทที่ไม่ดีต่อสุขภาพ ถึงแม้ว่าไขมันทรานส์สามารถพบได้ตามผลิตภัณฑ์ธรรมชาติในบางชนิดจากสัตว์เคี้ยวเอื้อง เช่น วัว แต่ไขมันทรานส์ส่วนใหญ่ในช่วงหลายๆปีที่ผ่านมา มาจากการเติม 𝐇𝐲𝐝𝐫𝐨𝐠𝐞𝐧𝐚𝐭𝐞𝐝 𝐎𝐢𝐥𝐬 (𝐏𝐇𝐎𝐬) (การเพิ่มไฮโดรเจนลงในน้ำมันพืช) ที่ถูกสร้างขึ้นในกระบวนการทางอุตสาหกรรม เพื่อทำให้มีอายุการเก็บรักษาที่นานขึ้น หลังจากนั้นมา 𝐏𝐇𝐎𝐬 ก็ถูกนํามาใช้กันอย่างแพร่หลายในผลิตภัณฑ์ต่างๆ

การใช้ไขมันทรานส์นั้นใช้งานได้ง่าย มีราคาไม่แพงในการผลิต และเก็บรักษาได้นาน นอกจากนี้ ไขมันทรานส์ยังทําให้อาหารมีรสชาติ และเนื้อสัมผัสที่ดี โดยร้านอาหาร และร้าน fast-food หลายแห่งจะใช้ไขมันทรานส์ในอาหารทอด เนื่องจากน้ํามันที่มีไขมันทรานส์สามารถใช้ได้หลายครั้ง และช่วยประหยัดต้นทุน ซึ่งในหลายๆประเทศ (เช่น เดนมาร์ก สวิตเซอร์แลนด์ และแคนาดา) และแคลิฟอร์เนีย นิวยอร์กซิตี้ บัลติมอร์ ได้มีการลดหรือจํากัดการใช้ไขมันทรานส์ในสถานที่บริการอาหาร

การศึกษาบางชิ้นชี้ให้เห็นว่าไขมันทรานส์เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ และหลอดเลือดโดยการเพิ่มคอเลสเตอรอล 𝐋𝐃𝐋 และลดคอเลสเตอรอล 𝐇𝐃𝐋

ตัวอย่างไขมันทรานส์ในอาหาร

• Fast foods
• ขนมอบ เช่น เค้ก คุกกี้ และพาย
• ข้าวโพดคั่วไมโครเวฟ
• อาหารทอด
• ครีมเทียม
• ผลิตภัณฑ์ที่เตรียมไว้ล่วงหน้า เช่น แป้งพาย แป้งพิซซ่า และแป้งคุกกี้
• อาหารแช่แข็ง เช่น ไอศกรีม แซนวิชส์แช่แข็ง พิซซ่า
• มาการีน

ไขมันทรานส์ทําร้ายอย่างไร?

ไขมันทรานส์นอกจากจะเพิ่มคอเลสเตอรอลที่ไม่ดี (LDL) แล้ว ยังลดคอเลสเตอรอลตัวที่ดี (HDL) ซึ่งไขมันทรานส์ทำให้เสี่ยงต่อโรคหลายชนิด เช่น โรคหัวใจ และหลอดเลือด โรคเบาหวาน และการอักเสบของระบบประสาทส่วนกลาง ดังนั้นการลดการบริโภคไขมันทรานส์หรือหลีกเลี่ยงมันเป็นสิ่งที่ดีต่อสุขภาพ

วิธีหลีกเลี่ยงไขมันทรานส์

1.อ่านฉลากอาหารก่อนซื้อ ฉลากส่วนใหญ่จะระบุว่ามีส่วนผสมของอะไรบ้าง ซึ่งควรเลือกอาหารที่มีปริมาณไขมันทรานส์เป็นศูนย์ หรือใกล้เคียงศูนย์จะดีที่สุด

2.ทำอาหารเอง เป็นอีกหนึ่งวิธีที่เป็นการหลีกเลี่ยงไขมันทราส์ได้ดี เพราะสามารถเลือกน้ำมันที่ไม่มีไขมันทรานส์ได้

3.หลีกเลี่ยงอาหารบางชนิด เช่น ของทอด ขนมปัง Fast foods

ไขมันทรานส์ ไม่ควรทานเกินเท่าไหร่ ?

องค์การอนามัยโลก (WHO) แนะนำไม่ควรบริโภคมากกว่า 1% ของพลังงานที่บริโภคในแต่ละวัน ซึ่งพลังงานเฉลี่ยที่ควรได้รับอยู่ที่ 2,000 กิโลแคลอรีต่อวัน ดังนั้นนั้นแล้วจึงควรจำกัดการบริโภคไขมันทรานส์ให้น้อยกว่า 2 กรัมต่อวัน (หรือประมาณ 20 กิโลแคลอรี่ต่อวัน)